เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ร่วมพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกับสมาคมดาราศาสตร์ชิลี

เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ร่วมพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกับสมาคมดาราศาสตร์ชิลี

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2567

| 482 view
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ได้เข้าร่วมพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ระหว่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กับสมาคมดาราศาสตร์ชิลี (Chilean Astronomical Society - SOCHIAS) ผ่านระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านดาราศาสตร์ระหว่างสองหน่วยงานให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีได้แก่ ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ดร. Bruno Dias ประธาน SOCHIAS นาย Patricio Powell เอกอัครราชทูตชิลีประจำประเทศไทย นาย Hellmut Lagos อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ พลังงาน การศึกษา นวัตกรรม และดาราศาสตร์ (DECYTI) กระทรวงการต่างประเทศชิลี
 
ผู้แทนจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติและสมาคมดาราศาสตร์ชิลี ได้แสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัย การแลกเปลี่ยนการเยือน การจัดกิจกรรมเชิงวิชาการ และการสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์ดาราศาสตร์ที่จะช่วยให้มีการศึกษาและเก็บข้อมูลได้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน ไทยมีกล้องโทรทัศน์ขนาด 0.7 เมตรติดตั้งอยู่ในชิลีจำนวน 1 ตัว เพื่อเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของวัตถุท้องฟ้า และมีแผนจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์แบบ infrared เพิ่มอีก 1 ตัวด้วย
 
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงครั้งนี้ โดยความร่วมมือด้านดาราศาสตร์เป็นหนึ่งในประเด็นทั้งสองประเทศได้หารือกันในการประชุม Political Consultations ไทย - ชิลี ครั้งที่ 7 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งความก้าวหน้าด้านอุปกรณ์ดาราศาสตร์ของไทยในภูมิภาคและความได้เปรียบด้านภูมิประเทศและเทคโนโลยีของชิลีมีศักยภาพที่จะเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน และเป็นการใช้ประโยชน์จากระยะห่างทางภูมิศาสตร์ในการส่งเสริมความร่วมมือให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
 
ชิลีเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านดาราศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์มากกว่าร้อยละ 50 ของโลก และมีนโยบายที่ส่งเสริมการพัฒนาการวิจัยทางดาราศาสตร์ เช่น Scientific Diplomacy และการอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้า (“dark and quiet skies”) เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับมลภาวะทางแสง

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ