สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ 23 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น.
ณ ห้องแถลงข่าว และทาง Facebook/TIKTOK/Youtube LIVE กระทรวงการต่างประเทศ
- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
- ต่อประเด็นการบังคับใช้กฎหมายไทยกับพลเมืองกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว นั้น ไทยได้บังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในเขตแดนของไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ
- ต่อกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่า ไทยจงใจบิดเบือนแผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ว่า เป็นเส้นเขตแดนจริง นั้น ฝ่ายไทยไม่เคยระบุยืนยันว่า แผนผังดังกล่าวกำหนดเส้นเขตแดน เพราะการเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ทั้งนี้ แผนผังที่ฝ่ายไทยนำแสดงดังกล่าวเป็นเพียงการนำพิกัดหลักเขตแดนไปทำภาพจำลองเส้นเขตแดนบนแผนที่แบบไม่เป็นทางการ เพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไปเท่านั้น
- ต่อข้อกล่าวหาที่ว่า ไทยละเมิด MOU 2543 ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบก นั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นผู้ละเมิด MOU ดังกล่าว โดยปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคาร สถานที่ และบ้านเรือนชุมชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขตพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงในกรอบ MOU แล้วกว่า 500 ครั้ง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข
- ต่อกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียดตามข้อตกลงหยุดยิง นั้น ประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยใช้ความอดทนอดกลั้นสูงสุดมาโดยตลอด ปฏิบัติการทางทหารทุกครั้งเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง รักษาอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน อีกทั้งประกันความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย
- ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ละเมิดพันธกรณีข้างต้น โดยเป็นผู้สนับสนุน ปลุกปั่น และจัดฉากให้ประชาชนกัมพูชาออกมาชุมนุมประท้วงด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว ก่อความไม่สงบ ในดินแดนไทย และใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทั้งนี้ ฝ่ายไทยใช้ตำรวจควบคุมฝูงชนในการควบคุมสถานการณ์ที่บริเวณ บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ไม่ได้ใช้กองกำลังทหารอย่างที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมายภายในประเทศและเป็นไปตามหลักการและมาตรฐานสากล
- ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดขยายชุมชนรุกล้ำดินแดนไทย และแจ้งให้ประชาชนของตนที่รุกล้ำเขตอธิปไตยของไทยย้ายออกนอกพื้นที่ รวมทั้งยุติการปลุกระดมและจัดฉากให้เด็ก สตรี และพระสงฆ์ออกมาประท้วงรับหน้าแทน ซึ่งจะส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศยิ่งร้าวลึก
- ฝ่ายไทยเคารพในพันธกรณี ยึดมั่นและปฏิบัติตามกลไก JBC และข้อตกลงหยุดยิงมาโดยตลอด ไทยผิดหวังที่กัมพูชายังคงบิดเบือนความจริงต่อประชาคมโลกและประชาชนของตนเองอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ฝ่ายไทยเรียกร้องในขณะนี้ คือ การแสดงความจริงใจผ่านการกระทำของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหา ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ไทยไม่ได้ก่อและไม่ได้เป็นประโยชน์ใด ๆ ต่อประเทศไทย
- ไทยได้ดำเนินการและจะเดินหน้าใช้โอกาสต่าง ๆ ชี้แจงถึงจุดยืน ท่าที และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชาต่อประชาคมโลก เพื่อแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักสงบและมีความมุ่งมั่นที่จะยุติความขัดแย้งกับกัมพูชาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่
- ไทยได้ดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและหลักสากลต่าง ๆ ซึ่งสวนทางกับการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่แม้จะพยายามยืนยันว่า ประสงค์จะแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี แต่กลับพยายามแสดงตนเป็นเหยื่อ เพื่อนำปัญหาไปสู่เวทีระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงถึงความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา
- ปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไทยไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เพราะไม่ส่งผลดีใด ๆ ต่อประเทศชาติและประชาชนของทั้งสองประเทศ และประเทศไทยมีความจริงใจ สุจริตใจ และตั้งใจจริงที่จะหาทางออกร่วมกันอย่างสันติกับกัมพูชา
- การประชุมและกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงในช่วงสัปดาห์ผู้นำของการประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA80 High-level Week) ณ สำนักงานใหญ่ สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ
- ระหว่างวันที่ 23 - 29 กันยายน 2568 สหประชาชาติจะจัดการประชุมและจัดกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงในช่วงสัปดาห์ผู้นำของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA80 High-level Week) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก
- การประชุมสมัชชาฯ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและถือเป็นเวทีพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี เพื่อ (1) ให้ผู้นำและผู้แทนระดับสูงของแต่ละประเทศได้กล่าวอภิปรายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่ประสงค์จะผลักดันในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐสมาชิก ที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกและสนับสนุนระบอบพหุภาคี และ (2) เป็นโอกาสให้ไทยได้พบผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงท่าทีไทยในประเด็นสำคัญ
- ในปีนี้ ประธานของการประชุมสมัชชาฯ ได้กำหนดหัวข้อของการประชุมสมัชชาฯ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ชื่อ “Better together: 80 years and more for peace, development and human rights” ให้รัฐสมาชิกสะท้อนถึงประโยชน์และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากพลังการขับเคลื่อนสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนร่วมกัน
- ประเด็นที่ฝ่ายไทยจะให้ความสำคัญในสมัยการประชุมสมัชชาฯ นี้ จะประกอบด้วยเรื่อง (1) การส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงที่ยึดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง (2) การร่วมกำหนดทิศทางและเครื่องมือสำคัญเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก (3) บทบาทของไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์และการพัฒนาที่ยั่งยืน และ (4) การปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยยึดหลักการมนุษยธรรม ซึ่งกระทรวงฯ จะแจ้งผลสรุปการประชุมต่าง ๆ ของคณะผู้แทนไทยต่อไป
- ในส่วนของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาฯ ครั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับสนับสนุนการเข้าร่วมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะรอความแน่นอนจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ในวันที่ 24 กันยายน 2568 และจะแจ้งความชัดเจนต่อไป
สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/1CMXDBthEa/?mibextid=wwXIfr